กองทัพไทยแข็งแกร่งแค่ไหน
เรามีกองทัพไว้เพื่ออะไร คำตอบมีได้หลายข้อ
1. มีไว้เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ
2. ปกป้องอธิปไตยของชาติ
3.รักษาผลประโยชน์ของชาติ
4.ช่วยเหลือและปกป้องประชาชน
ในบทความนี้จะเกี่ยวกับมีแสนยานุภาพ หรือความแข็งแกร่งของกองทัพของชาติต่างๆใน 30 อันดับแรกโลก และใน 10 ชาติอาเซียน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจทราบ ถึงสถานะของกองทัพไทยเราเองด้วย ซึ่งประเทศไทยเองก็ มีสถานะความแข็งแกร่งทางทหารอยู่ใน 30 อันดับแรกโลก ด้วย
ในส่วนของเรื่องในการจัดอันดับนั้น ถูกจัดโดย เว็ปไซต์ Global Firepower Index ranking ซึ่งเป็น เว็ปไซต์ จัดอันดับทางมีแสนยานุภาพทหารระดับโลก โดยการจัดอันดับนี้ จะไม่นำอาวุธนิวเครียส์ ทำการด้วย
ซึ่งจากผลการจัดอันดับจะพบว่ากองทัพที่มีความเข้มแข็งหรือมีมีแสนยานุภาพทางกองทัพที่สุดในโลก 10 อันดับแรกได้แก่ สหรัฐ รัสเซีย จีน อินเดีย และญี่ปุ่น เกาหลีไต้ ฝรั่งเศษ อังกฤษ อียิปต์ และบราซิล ตามลำดับ รายระเอียดตามตารางข้อมูลด้านล่าง
หลายท่านอาจจะมีคำถามว่า ญี่ปุ่นมีกองทัพด้วยหรือเพราะตามสนธิสัญญาตอนที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 สนธิสัญญาซานฟรานซีสโก 8 กย. พ.ศ. 2494 กับ 49 ประเทศ ยกเว้น รัสเซีย จีน และไต้หวัน
โดยมีข้อที่เกี่ยวกับทหารว่า
ห้ามมีกองทัพและคณะปฏิวัติ มีได้เฉพาะกองกำลังรักษาความมั่นคงภายในเท่านั้น ซึ่งความหมายมันก็คือกองทัพกลายๆนั่นเองครับ
แค่ห้ามในกองทัพไปรบนอกประเทศ ดังนั้น เว็ปไซต์ Global Firepower Index ranking นี้ก็เลยนำรวมด้วย
ซึ่งประเทศอาเซียนเรามีติด 30 อันดัยแรกอยู่ 3 ประเทศ โดยมีกองทัพไทยอยู่ในอันดับที่ 23 เป็นรอง ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเวียดนาม ที่อยู่ในอันดับที่ 16 และ 22 ของโลกตามลำดับ
จากตัวเลขด้านล่างจะพบว่า
สหรัฐอเมริกามีแสนยานุภาพทางกองทัพมากที่สุดในโลก โดยมีรัสเซียและจีนตามมาติดๆ ส่วนอินเดียและญีปุ่นตามมาห่างๆ
ส่วนกองทัพไทยอยู่อันดับที่ 23 แต่ถ้าเทียบกับสหรัฐ จะพบว่าสหรัฐมีแสนยานุภาพทางกองทัพ มากกว่าไทยอยู่ เท่ากับ 16.50 /2.80 = 6 เท่า
(อย่าลืมว่าเป็นการเปรียบเทียบโดยไม่มีอาวุธนิงเคลียร์มาเกี่ยวข้องน่ะครับ ซึ่งถ้านำมาเกี่ยวข้อง ตัวเลขจาก 6 เท่า อาจจะกลายเป็น100 เท่าหรือมากกว่าครับ )
ต่อมาจะเป็นการตรวจดูกำลังทหารที่ประจำการเต็มเวลาสำหรับ ของกองทัพของชาติต่างๆใน 30 อันดับ จากตารางด้านล่างแรกโลก พบว่า
อันดับ 1 เป็นกองทัพจีนมีกำลังพล 2,180,000 คน
อันดับ 2 เป็นกองทัพอินเดียมีกำลังพล 1,444,000 คน
อันดับ 3 เป็นกองทัพสหรัฐมีกำลังพล 1,400,000 คน
อันดับ 4 เป็นกองทัพเกาหลีเหนือมีกำลังพล 1,280,000 คน และ
อันดับ 5 เป็นกองทัพรัสเซีย มีกำลังพล 1,010,000 คน
ส่วนกองทัพไทยมีกำลังพลอยู่อันดับ 13 ซึ่งมี 36,0000 คน
ต่อมา สำรวจในส่วนของงบประมาณทางทหารของกลุ่มของกองทัพของชาติต่างๆใน 30 อันดับแรกโลก จากตารางด้านล่าง พบว่า
อันดับ 1 เป็นกองทัพสหรัฐมีงบประมาณทางทหาร 750,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 2 ป็นกองทัพจีนมีงบประมาณทางทหาร 237,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 3 ป็นกองทัพซาอุดิอาระเบีย มีงบประมาณทางทหาร 67,600 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 4 ป็นกองทัพอินเดียมีงบประมาณทางทหาร 61,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ และ
อันดับ 5 ป็นกองทัพอังกฤษมีงบประมาณทางทหาร 55,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
ส่วนกองทัพไทยมีงบประมาณทางทหารเป็นอันดับที่ 15 ที่ 7,100 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ หรือ 213,000 ล้านบาท
ต่อมาสำรวจแสนยานุภาพทางกองทัพของ10 ชาติอาเซียน จากภาพด้านล่างพบว่า
อันดับ 1 คือกองทัพอินโดนีเซีย
อันดับ 2 เป็นกองทัพเวียดนาม และ
อันดับ 3 เป็นกองทัพไทย
ส่วนกองทัพบูรไน ทาง เว็ปไซต์ Global Firepower Index ranking ไม่ได้ทำการสำรวจเพราะเป็นกองกำลังขนาดเล็กมาก กำลังพล 7,000 คน และไม่ได้มีศักยภาพเพียงพอสำหรับในการสำรวจโดย เว็ปไซต์ Global Firepower Index ranking นี้
ภาพด้านล่างแสดงการสำรวจแสนยานุภาพทางกองทัพของ10 ชาติอาเซียน ด้วยตัวเลขดัชนี 1/Perldx
ถ้าเทียบกองทัพอินโดนีเซียกับกองทัพไทย พบว่า กองทัพอินโดนีเซียมีความแข็งแกร่งทางทหารมากกว่า 40 %
และ ถ้าเทียบกองทัพเวียดนามกับกองทัพไทย พบว่า สูสี ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใครมากมายขึ้นกับสถานการณ์
แต่ถ้าเทียบกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชาพบว่ากองทัพไทยมีแสนยานุภาพทางทหารกว่ากองทัพกัมพูชาถึง 2.8 /0.49 =5.7 เท่า
ต่อมาทำการตรวจสอบงบประมาณทางทหารของกลุ่มประเทศอาเซียน จากภาพด้านล่างพบว่า
อันดับ 1 เป็นกองทัพสิงคโปร์ มีงบประมาณทางทหาร 11,200 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 2 เป็นกองทัพอินโดนีเซีย มีงบประมาณทางทหาร 7,600 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 3 ป็นกองทัพไทยมีงบประมาณทางทหาร 7,100 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
อันดับ 4 ป็นกองทัพเวียดนาม มีงบประมาณทางทหาร 5,500 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ และ
อันดับ 5 ป็นกองทัพมาเลเซียมีงบประมาณทางทหาร 4,000 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ
0 ความคิดเห็น