การตลาดแบบ อัฐยายซื้อขนมยายแพงไม่ว่าพวกข้าต้องมาก่อน ?
พวกเราเคยแปลกใจไหมว่าประเทศญี่ปุ่นเข้ามาทำธุรกิจในบ้านเมืองไทยเรามานานหลายสิบปี
มีการจ้างงานแรงงานไทยอย่างมากมาย
แต่เชื่อไหมว่าบริษัทคนไทยที่เจ้าของเป็นคนไทย
เข้าไปหางานหรือเข้าติดต่อธุรกิจได้ งาน น้อยมาก สาเหตุมาจากอะไร ?

สาเหตุไม่ไช่เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่เรื่องของราคา
แล้วมันเป็นเรื่องอะไรครับ คำตอบมันเป็น …เรื่องของ…ชาตินิยมครับ สั้นๆ
คนญี่ปุ่นโดยนิสัยพื้นฐานแล้วจะถูกบ่มเพาะให้เป็นคนที่มีเลือดชาตินิยมสูงมากติดอันดับโลก
( เมื่อก่อนเป็นอับดับ 1 ของโลก)
ซึ่งปัจจุบัน จีนก็กำลังดำเนินรอยตามสร้างลัทธินี้เหมือนกันแต่จะเพิ่มเติมคือชาตินิยมทางเทคโนโลยี ซึ่งก็กำลังเป็นไปได้ด้วยดีครับ
ส่วนอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ชาตินิยมอันดับ 1
คือเวียดนามครับ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของเรา
เมื่อก่อนการพัฒนาบ้านเมืองของเราเจริญกว่าเวียดนามที่มีปัญหาสงครามกลางเมือง
โดยที่การพัฒนาเรานำหน้าเวียดนามอยู่ 20-25
ปีน่ะครับแต่พอสงครามกลางเมืองเขาสงบ เขาก็เริ่มตั้งตัวได้โดยที่การเมืองเขามั่นคงและในปี1995เวียดนามมีการเปิดเสรีมางเศรษฐกิจในปีมากขึ้น
และด้วยความเป็นชาตินิยมนี้เองทำให้เวียดนามซึ่งตอนนี้การพัฒนาอย่างรวดเร็วมาอยู่ในระดับ
จ่อคอหอยเราอยู่ครับ ว่ากันว่าช้ากว่าพี่ไทยเราไม่เกิน 10 ปี
ขอรับ
ขอเข้าเรื่องครับ ซึ่งความเป็นชาตนิยมของคนญี่ปุ่นนี่เอง
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นิสัยชาตินิยมมันติดตาม คนญี่ปุ่น บริษัทของญี่ปุ่น ไปด้วย
ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าอยู่ใหนเขาก็จะเกื้อหนุนกันครับ
แม้แต่การทำการตลาดการซื้อขายโดยใช้ การตลาดแบบญี่ปุ่น ซึ่งที่ผมขอเรียกว่า “การตลาดแบบ
อัฐยายซื้อขนมยาย… รู้ไว้ ไม่เสียหายครับ “
ร้อยเรื่องราว
เรื่องนี้ผมมีประสบการโดยตรงตอนที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง โดยปรกติเริ่มแรกกระบวนการในการ การสั่งซื้อวัสดุสิ้นเปลืองในการผลิต จะต้องมีการนำของจาก maker หลายๆเจ้า
เพื่อทำการการทดลองใช้งานถ้าพบว่าเจ้าใดมีคุณภาพ และ ราคา ที่ ดีที่สุดก็จะถูกสั่งซื้อเข้ามาใช้งาน ครั้งนี้ก็เหมือนกัน หลังจากผ่านการทดลองต่างๆแล้ว พบว่ามีบริษัทคนไทยเจ้าหนึ่งคุณภาพดีที่สุด ขณะที่ราคาต่ำสุด
สาเหตุเพราะเขามีแหล่งวัตถุดิบผลิตราคาถูก ดังนั้นสินค้าของ Maker เจ้านี้จึงถูกเข้ามาเป็นแหล่งวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในการผลิต
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มี Maker เป็นบริษัทญี่ปุ่นมานำเสนอเหมือนกัน
คุณภาพใก้ลเคียงกันแต่ราคาแพงกว่า 5 เท่า ปรกติของไทยราคา 90
บาทต่อ กก. แต่ของญี่ปุ่น 420 บาทต่อ กก.
ซึ่งผมก็ต้องเลือกของไทยอยู่แล้ว และผมก็ใช้ของไทยต่อครับ
และเหตการณ์ผ่านไปได้ประมาณ 1 เดือน ผมถูก
ผู้บริหารระดับสูง (MD) เบอร์ 1 ของโรงงานเรียกพบ
และยื่นคำขาดว่าต้องซื้อของจากญี่ปุ่นเท่านั้นไม่สนว่าราคาจะแพงเท่าไร
เพราะเขาพึ่งจะเข้ามาเปิดธุรกิจที่เมืองไทย ไม่เช่นนั้นเขาจะอยู่ได้อย่างไร เท่านั้นผมก็ถึงบางอ้อครับ
เท่าทำงานมาในหลายๆเรื่อง ทำให้เรารู้เลยว่า
ชาตินิยมเขาถูกฝังไว้ใน DNA แล้วครับ เพราะเป็นเหมือนกันหมด
ความเห็นส่วนตัว
1. การตลาดแบบชาตินิยมทำให้บริษัทญี่ปุ่นเข้มแข็งเป็นเครือข่ายสามารถที่จะดำเนินกิจการอยู่ได้ เพราะปรกติสินค้าญี่ปุ่นราคาค่อนข้างแพง
ถ้าจะทำการตลาดแบบทั่วก็จะไม่สามารถแข่งและอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เขาจึงออกแบบเครือข่ายธุรกิจแบบพึ่งพาอาศัยกัน
|
0 ความคิดเห็น